การจัดแหล่งการเรียนรู้และสิ่งแวดล้อมเพื่อการเรียนรู้
Friday, May 15, 2015
เที่ยวไม่ไกล ไปกำแพงแสนนน
หลังจากที่รอคอยกันมานานกับ ดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ กำแพงแสน ซึ่งปีนี้ดูท่าจะฮอตกว่าทุกปี ก็ได้เวลาที่เจ้าดอกสีชมพูเริ่มบานอวดโฉมกันแล้ว โดยปกติดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ กำแพงแสน จะเริ่มบานในช่วงเดือนมีนาคมของทุกปี แต่ปีนี้มาให้เห็นกันช้าซักหน่อย แต่น่ะยังดีกว่าไม่มาน่ะจ๊ะ ไปด้วยกันไม่พลาดนำภาพมาฝากกันเช่นเคย ไปอัพเดทกันมาสดๆร้อน เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 58 นี้เอง
หมดรอบของซากุระภาคเหนือ ก็เริ่มจะย่างเข้าสู่ฤดูกาลซากุระภาคกลาง หรือ ดอกชมพูพันธุ์ทิพย์บาน กันแล้ว ดอกใหญ่ๆ สีชมพูเป็นช่อกลมๆ เห็นเด่นชัดแต่ไกล มักจะเริ่มบานต้อนรับช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ไปจนถึงมีนาคมของทุกปี
จุดชมดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ยอดฮิตจะอยู่ด้านหลังถนนหลังมหาวิทยาลัยหรือถนนวัฒนาเสถียรสวัสดิ์ ใกล้กับโรงเรียนสาธิตเกษตร กำแพงแสน ถนนเส้นนี้มีต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ขึ้นเรียงรายกันเป็นร้อยต้น หลังจากขับรถเข้ามาในมหาวิทยาลัยแล้วตรงดิ่งมายังถนนด้านหลังจะเจออุโมงค์สีชมพูจุดแรกจอดรถตรงร้านสเต็กเฮาส์จากนั้นเดินออกมาถ่ายภาพ เห็นภาพแล้วแทบกรี๊ดบรรยากาศเหมือนกับซากุระที่ญี่ปุ่นยังไง ยังงั้น ปีนี้ดอกชมพูพันธุ์ทิพย์มีสีขาวแซมมาเยอะ
รวมบล็อคเพื่อน
1. นางสาวสิรินภา ทองพูล http://sirinapa0872.blogspot.com/
2. นางสาวรติมา ปิดตาระโพธิ์ http://libkukps.blogspot.com/
3. นางสาวธัญญารัตน์ วรรณพิณ http://thunyarathdd0147.blogspot.com/
4. นายอภิสิทธิ์ เหมือนเงิน http://apisit1909.blogspot.com/
5. นายวรนาถ จำปา http://woranat12345.blogspot.com/
6. นางสาวชะนันฐา นาคสนิท http://chananta0074.blogspot.com/
7. นางสาวณัฐพร วงษ์กระจ่าง http://nattaporn0741.blogspot.com/
8. นายเอกภพ ทับทิมทอง http://aekkapop0902.blogspot.com/
9. นายอภิสิทธิ์ ชวนอยู่ http://apisit0333.blogspot.com/
10. นางสาวอุมาพร รังกลิ่น http://umaporn0376.blogspot.com/
11. นางสาวอรวรรณ จันทร์ดี http://orawan1186.blogspot.com/
12. นายพีระพัฒน์ สูญกลาง http://phirapat0210.blogspot.com/
13. นายชวลิต ปะลาวัน
14. นางสาวนิพาดา ธนวัฒนพงศ์ http://niphada1801.blogspot.com/
15. นางสาวกุลดา ยิ้มสีมา http://kullada0015.blogspot.com/
16. นางสาวนุชจรี ภูสีเงิน http://nuchjaree1810.blogspot.com/
17. นายณัฐพงศ์ ดรหลักคำ
18. นายจตุรพล กำปั่น http://jaturapon2536.blogspot.com/
19. นางสาวน้ำอ้อย ชื่นยินดี http://namoiy767.blogspot.com/
20. นายวุฒิกร สระทองลั่น http://wuthikorn0261.blogspot.com/
21. นายสุวิทย์ ดำครุฑ http://suwit1212.blogspot.com/
22. นางสาวศิริลักษณ์ บุศย์รัศมี http://siriluk1879.blogspot.com/
23. นางสาวจีรวรรณ ธนวัฒนพงศ์ http://jeerawan1780.blogspot.com/
24. นายไกรเพชร เจนจบ http://kraiphet023.blogspot.com/
25. นางสาวสาวิตรี เมืองช้าง http://muangchang0864.blogspot.com/
26. นางสาวพรพิมล บุญนาม http://ponpoimol5520600201.blogspot.com/
27. นางสาววรรณนิษา พุ่มอุไร http://wannisa1381.blogspot.com/
28. นายเจนรงค์ เอี่ยมคงสี http://jannarong0058.blogspot.com/
29. นายพิชาพร เชื้อทอง http://pichaporn0783.blogspot.com/
30. นางสาวณิชารีย์ แซ่ฉั่ว http://nichalee2166.blogspot.com/
31. นายอภิชาติ พิกุลหอม http://apichat0881.blogspot.com/
32. นายนิติพล สายแก้ว http://nitipon180.blogspot.com/
33. นายดุลยรัตน์ แก่นทรัพย์ http://dulyarat0112.blogspot.com/
34. นายสหรัฐ เชื้อสาย http://saharat0279.blogspot.com/
35. นายพลวัฒน์ จงสำราญ http://ponlawat1852.blogspot.com/
36. นางสาวสุภาดา นาคโสมกุล http://supada1895.blogspot.com/
37. นายชัชวาลย์ พูลสวัสดิ์ http://chatchawanrutsameekul2140.blogspot.com/
38. นายสุทธิ์พงศ์ โพธิ์ผลิ http://sutipong0309.blogspot.com/
39. นางสาววิราวรรณ เทียนทอง http://wirawan0813.blogspot.com/
40. นายวัชรพงศ์ ดอกเข็ม http://watchaapong.blogspot.com/
41. นางสาวนพรัตน์ หอมอุบล http://mheenopparut.blogspot.com/
Tuesday, April 7, 2015
ตัวอย่างการเรียนการสอนในประเทศสหัฐอเมริกา
มาทำความเข้าใจกับระบบการศึกษาของ
ประเทศสหรัฐอเมริกากันก่อนนะคะ
ระบบการศึกษาของประเทศสหรัฐอเมริกามีหลายสาขาวิชาให้นักศึกษาชาวต่างชาติเลือก นักศึกษาจะต้องทำการตัดสินใจเลือกตั้งแต่ประเภทของโรงเรียน หลักสูตรวิชาเรียน และสถานที่ตั้งของโรงเรียน ซึ่งมีตัวเลือกให้เลือกอย่างมากมายล้นหลาม ดังนั้นการที่นักศึกษาจะทำการตัดสินใจเลือกที่เรียนได้นั้น นักศึกษาต้องทำความเข้าใจกับระบบการศึกษาของประเทศนี้ก่อน เพื่อช่วยให้นักศึกษาสามารถเลือกโรงเรียนและวางแผนการศึกษาของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โครงสร้างการศึกษาของประเทศสหรัฐอเมริกา
ระบบการให้เกรด
นักศึกษาชาวต่างชาติต้องแนบใบประเมินผลการศึกษาของตนพร้อมกับใบสมัครเข้าวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยในประเทศสหรัฐอเมริกาให้เหมือนกับนักศึกษาชาวอเมริกันคนอื่น ๆ ซึ่งใบประเมินผลการศึกษานี้จะเป็นเอกสารหลักในการแสดงผลการศึกษาของนักศึกษา ได้แก่ เกรดและเกรดเฉลี่ย (GPA) ซึ่งเป็นตัววัดผลการศึกษาของนักศึกษา และการให้เกรดในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นจะให้เป็นเปอร์เซ็น และจำนวนเปอร์เซ็นจะถูกผันแปรเป็นเกรดแบบตัวอักษร
บางครั้งระบบการให้เกรดและเกรดเฉลี่ย (GPA) ในประเทศสหรัฐอเมริกาก็มีความยุ่งยากซับซ้อนและทำให้นักศึกษาสับสน โดยเฉพาะกับนักศึกษาชาวต่างชาติ อีกทั้งมีการผันแปรเกรดด้วย ตัวอย่างเช่น มีนักศึกษาสองคนสำเร็จการศึกษามาจากโรงเรียนมัธยมศึกษาคนละแห่ง ทั้งคู่ยื่นใบสมัครเข้ามหาวิทยาลัยพร้อมกันและมีเกรดเฉลี่ยเท่ากันคือ 3.5 GPAs แต่นักศึกษาคนหนึ่งสำเร็จการศึกษามาจากโรงเรียนมัธยมศึกษาธรรมดา แต่นักศึกษาอีกคนสำเร็จการศึกษามาจากโรงเรียนมัธยมศึกษาที่มีชื่อเสียงโด่งดังทางด้านวิชาการ ดังนั้นทางมหาวิทยาลัยอาจจะมองดูเกรดเฉลี่ยในใบประเมินผลการศึกษาและให้คะแนนนักศึกษาทั้งสองคนต่างกัน เนื่องจากทั้งสองคนมาจากโรงเรียนที่มีมาตรฐานทางการศึกษาไม่เหมือนกัน
ปีการศึกษา
ปฏิทินการศึกษาของประเทศสหรัฐอเมริกาจะเริ่มในเดือนสิงหาคมหรือเดือนกันยายนและดำเนินการเรียนการสอนต่อไปจนถึงเดือนพฤษภาคมหรือเดือนมิถุนายน นักศึกษาใหม่ส่วนมากจะเริ่มต้นการศึกษาในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ดังนั้นจึงเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับนักศึกษาชาวต่างชาติในการเริ่มต้นการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยของตนที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เพราะเป็นช่วงเวลาแห่งความตื่นเต้น นักศึกษาทุกคนกำลังเริ่มต้นการศึกษาใหม่เหมือนกันหมด และกำลังปรับตัวให้เข้ากับชีวิตใหม่ของการเป็นนักศึกษา นักศึกษาจะสามารถพบและสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนใหม่ได้ในช่วงเวลานี้ได้ดีที่สุด นอกจากนั้นแล้ว ทางมหาวิทยาลัยยังได้ออกแบบหลายหลักสูตรวิชาที่นักศึกษาสามารถเลือกศึกษาได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเริ่มต้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและดำเนินการทำการเรียนการสอนต่อไปจนถึงสิ้นปี
หนึ่งปีการศึกษาของโรงเรียนหลายแห่งประกอบด้วยสองเทอม เรียกว่าระบบ “Semesters“(โรงเรียนบางแห่งมีสามเทอมต่อหนึ่งปีการศึกษาซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่าระบบ “trimester”) นอกจากนี้ โรงเรียนบางแห่งได้รวมการเรียนการสอนภาคฤดูร้อนที่เป็นหลักสูตรวิชาเลือกไว้ด้วยกันจึงแบ่งหนึ่งปีการศึกษาออกเป็นสี่เทอม โดยทั่วไปแล้ว ถ้านักศึกษาไม่ได้ลงเรียนภาคฤดูร้อน หนึ่งปีการศึกษาก็จะแบ่งออกเป็นสองเทอม (Semesters) หรือสามส่วนสี่เทอม (trimester)
หน่วยกิต
หลักสูตรวิชาหนึ่งจะมีหน่วยกิตเป็นตัวเลขหนึ่งจำนวนหรือเป็นจำนวนชั่วโมง ส่วนใหญ่จะเป็นจำนวนชั่วโมงที่นักศึกษาทำการเรียนภายในหนึ่งสัปดาห์ โดยส่วนใหญ่หนึ่งหลักสูตรวิชาจะเท่ากับสามถึงห้าหน่วยกิต
หลักสูตรเต็มเวลาในโรงเรียนส่วนใหญ่จะมี 12-15 หน่วยกิตชั่วโมง (สี่หรือห้าหลักสูตรวิชาต่อหนึ่งเทอม) และนักศึกษาต้องเข้าทำการศึกษาให้ได้จำนวนหน่วยกิตที่กำหนดเพื่อสำเร็จการศึกษา นักศึกษาชาวต่างชาติต้องศึกษาในหลักสูตรเต็มเวลาเท่านั้น
การโอนย้าย นักศึกษาที่ย้ายไปทำการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยแห่งใหม่สามารถโอนย้ายหน่วยกิตที่ได้จากมหาวิทยาลัยเดิมมาใช้ในที่ใหม่ได้ ดังนั้นนักศึกษาจึงสามารถย้ายมหาวิทยาลัยและสำเร็จการศึกษาภายในเวลา
ที่เหมาะสมได้
ที่มา:
www.http://studyusa.com/th/a/406.
Subscribe to:
Posts (Atom)